หนุ่มหื่น!! รับสารภาพ พยายามข่มขืน เพราะเซ็กส์จัด (ชมภาพ)

loading...


ตำรวจราชบุรีร่วมกับตำรวจ บก.ปคม. คุมตัวโจรโรคจิตทำแผนในคดีชิงทรัพย์อนาจารหมายข่มขืนเหยื่อสาวจุดกลับรถใต้สะพานโคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง



เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2559 พล.ต.ต. กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต. กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พ.ต.อ. ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ ผกก.5 บก.ปคม. นำตัวนายสุนันท์ โตแทน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.358/1/2559 ลงวันที่ 29 ก.ย. ในฐานความผิดชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและกระทำอนาจารแก่บุคคลกว่า 15 ปี โดยการขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืน ที่บริเวณอุโมงค์ใต้สะพานถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 3 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 200 นาย คุมล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการเกิดความวุ่นวายและการทำร้ายตัวผู้ต้องหา



โดยนายสุนันท์ ให้การรับสารภาพสิ้นทุกข้อกล่าวหา ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายนและวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ตนได้ออกมาตระเวนหาเหยื่อที่เป็นหญิงสาวขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงลำพัง และเลือกใช้ที่บริเวณอุโมงค์ใต้สะพานโคกหม้อเป็นสถานที่ในการก่อเหตุเนื่องจากเป็นสถานที่เปลี่ยว และมืด มีผู้ใช้สัญจรน้อย โดยที่ตนเองจะออกขับขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนไปตามตัวเมืองราชบุรี และคอยดูหญิงสาวที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เพียงลำพัง ซึ่งในคืนเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาจากที่ทำงานที่ร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามหลัง และมาถึงที่เกิดเหตุตนจึงนำรถเข้าขวางหน้าและคว้ามือไปจับกระเป๋าของผู้เสียหายและบิดลูกกุญเจรถจากนั้นขอผู้เสียหายมีเพศสัมพันธ์ และลากผู้เสียหายไปที่บริเวณหลังตอหม้อสะพานก่อนจะทำการถอดเสื้อผ้าของผู้เสียหายจนหมด ซึ่งขณะนั้นรถของตนเองและผู้เสียหายจอดขวางถนนอยู่ตนจึงบอกให้ผู้เสียหายอยู่กับที่และได้ออกไปขยับรถก่อนที่ผู้เสียหายจะรีบวิ่งหนีออกไป ซึ่งตนเองก็ได้รีบขับรถวิ่งตามแต่ไม่ทัน และเห็นว่าผู้เสียหายไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ตนจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หนีหายไป และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติไม่ได้หลบหนีประการใดก่อนที่จะมาถูกจับกุมดังกล่าว โดยที่ตนเองยอมรับสารภาพว่ามีความต้องการทางเพศ สาเหตุที่ออกมาตะเวนหาเหยื่อเพราะตนเองไม่มีเงินที่จะไปเที่ยวหญิงบริการ จึงได้ออกมาก่อเหตุดังกล่าว



 จากคดีดังกล่าวหลังจากที่หญิงสาวผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความลงบนสื่อออนไลน์จนเป็นกระแสข่าวดังตามสื่อต่าง ๆ ทาง พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.ก. ได้เห็นข่าวที่ปรากฏ จึงได้สั่งการไปยัง ตำรวจ ปคม. ให้เร่งรัดโดยสั่งการให้ชุดสืบสวน บก.ปคม. ลงพื้นที่ประสานข้อมูลกับทางชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี โดยนำข้อมูลคนร้ายจากระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศที่มีประวัติการต้องโทษคดีความผิดเกี่ยวกับเพศและเพิ่งพ้นโทษออกมา รวมทั้งฐานข้อมูลบุคคลผู้มีหมายจับคดีความผิดเกี่ยวกับเพศที่ยังหลบหนีการจับกุมและเป็นที่ต้องการตัวในพื้นที่ จ.ราชบุรี มาวิเคราะห์ ก่อนนำภาพของบุคคลที่พ้นโทษในคดีเกี่ยวกับเพศให้ผู้เสียหายดู ซึ่งผู้ เสียหายยืนยันว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายสุนันท์ โตแทนจริง



ต่อมาชุดสืบสวน กก.5 บก.ปคม. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสุนันท์ เมื่อพ้นโทษได้มาพักอาศัยที่บ้านเลขที่ิ 82/2 หมู่ที่ 8 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จึงได้นำกำลังไปจับกุม ทันทีที่ไปถึงก็พบผู้ต้องหารายนี้เดินอยู่ที่บริเวณหน้าวัดบ้านไร่ จึงได้แสดงตัวจับกุม ก่อนนำหมายค้นศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 563/2559 ลงวันที่ 1 ต.ค. เข้าตรวจค้นบ้านพักก็พบเสื้อยืดสีส้ม และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก ทะเบียน คฉง 730 ราชบุรี ซึ่งเป็นจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุ โดยนายสุนันท์ไม่มีอาการขัดขืนหรือหลบหนีประการใด จากการสอบสวนนายสุนันท์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และเคยกระทำผิดลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดีต่อไป



พล.ต.ต. กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า จากคดีดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีส้ม ขี่รถ จยย. ฮอนด้า รุ่นคลิกสีดำ ไม่ทราบทะเบียน ก่อเหตุชิงทรัพย์ และพยายามข่มขืนกระทำอนาจารน้องทราย (นามสมมุติ) ชาวบ้านตำบลพิกุลทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ โดยเลือกใช้จุดกลับรถใต้สะพานโคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรีเป็นสถานที่ก่อเหตุ ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ได้รับความสนใจของประชาชน ทางตำรวจ ปคม. ร่วมกับตำรวจ ภูธรจังหวัดราชบุรี ทำการติดตามจับกุมจนสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้มาได้ จากการสืบประวัติและการรับสารภาพของผู้ต้องหา ทราบว่าได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และต้องโทษในคดีจนถูกตัดสินให้จำคุกมาแล้วนับ 10 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดโดยตัดสินในคดียาเสพติด ติดคุกมา 2 ปี 8 เดือน และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน และมาก่อเหตุซ้ำอีก
loading...

 จากการรายงานทราบว่าก่อเหตุมา 3 ราย โดยรายแรกเกิดที่พื้นที่ สภ.บางแพ และ ล่าสุดที่บริเวณจุดกลับรถสะพานโคกหม้อ มีผู้เสียหาย 2 ราย โดยนายสุนันท์จะเลือกใช้เวลาช่วงค่ำ และเป็นวันอาทิตย์เพราะเป็นวันหยุด ส่วนในวันปกตินายสุนันท์จะประกอบอาชีพก่อสร้าง ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ จะเป็นคนโรคจิตและมีความต้องการทางเพศสูง การก่อเหตุจะไม่ค่อยหวังต่อทรัพย์ มีจุดหมายที่จะหวังข่มขืนผู้เสียหายอย่างเดียว ทั้งนี้ก็ได้ควบคุมตัวนายสุนันท์ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านนางส้ม (นามสมมุติ) พี่สาวของของนายสุนันท์ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายสุนันท์ เป็นคนที่มีโรคส่วนตัวสูงยอมรับว่าน้องชายเป็นคนโรคจิต เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกถูกจับที่จังหวัดสงขลาในคดีลักทรัพย์ ส่วนครั้งที่ 2 โดนจับที่จังหวัดราชบุรีในคดียาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน โดนขอให้น้องชายมาทำงานช่วยเหลือทางบ้าน ซึ่งน้องชายก็ทำงานก่อสร้างตามปกติ กลับเข้าบ้านก็จะอยู่แต่ในห้องและช่วงกลางคืนก็จะออกไปนอกบ้าน หลังจากที่เห็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ก็ตกใจ ซึ่งก็บอกน้องชายว่าตำรวจกำลังติดตามจับกุมอยู่และก็ถามว่าไปก่อเหตุจริงไหม ซึ่งน้องชายก็ยอมรับว่าทำจริงแต่ไม่ได้ทำร้ายหรือ ล่วงเกินเขา จนวันที่ตำรวจมาจับกุมน้องชายก็ไปช่วยทำความสะอาดที่วัดเพราะกำลังมีงานบุญ ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษแทนน้องชายที่ได้กระทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ กับหญิงสาวผู้เสียหาย และหลังจากนี้ก็ให้น้องชายตนไปรับโทษตามกฎหมายและหากพ้นโทษมาจะพำไปรักษาและบำบัดเพื่อไม่ให้กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

 ด้านน้องทราย (นามสมมุติ) หญิงสาวผู้เสียหายและเป็นผู้โพสต์ข้อความเตือนภัยดังกล่าว ออกมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านสื่อมวลชนว่า ตนเองต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ที่หลังจากทราบข่าวก็ได้เร่งเข้ามาติดตามคดีจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่ายังตกใจ และการใช้ชีวิตประจำวันก็ไม่ประมาทอีก เพราะไม่ใช่มีแค่คนร้ายรายนี้ อาจจะมีอีกหลายรายที่ตนเองไม่คาดคิด ตนเองก็อยากฝากเตือนไปยังเพื่อนสาวเดินทางในช่วงกลางคืนก็ขอให้ระมัดระวัง อย่าเดินทางเพียงลำพัง เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนตนเองที่รอดจากเงื้อมมือของคนร้ายรายนี้มาได้

ขณะที่บรรยากาศการทำแผนมีผู้เสียหายทั้ง 2 รายและญาติ ๆ รวมไปถึงประชาชนที่ทราบข่าวต่างก็มามุงดู ซึ่งระหว่างที่จะนำตัวนายสุนันท์มาทำแผนที่บริเวณจุดที่ผู้เสียหายหลบหนี ทางญาติผู้เสียหายรายหนึ่งเกิดอาการไม่พอใจด่าทอผู้ต้องหาและจะมุ่งเข้าทำร้ายผู้ต้องหาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องห้ามและนำผู้ต้องหาขึ้นรถไปทันที
loading...
Share on Google Plus

About Unknown

    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น